แก้วน้ำพลาสติกพรีเมี่ยม โรงงานของพรีเมี่ยม
ปรับตัวให้ปลอดภัยกับยุค New normol ด้วยการใช้แก้วพลาสติก
แก้วพลาสติก ในชีวิตประจำวันมีมากมายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น แก้วน้ำพรีเมี่ยม แก้วพลาสติก1ชั้น แก้วพลาสติก2ชั้น แก้วน้ำพลาสติกเก็บความเย็น แก้วน้ำพลาสติกทนความร้อน แก้วพลาสติกใส แก้วกระดาษ แก้วน้ำรักษ์โลก แก้วน้ำฟางข้าว และการผลิตที่มาจากวัสดุมากมายเรามาทำความรู้จักกับพลาสติกแต่ละประเภทกันค่ะ
1. แก้วพลาสติก PET หรือแก้วพลาสติก PETE เป็นแก้วพลาสติกที่ผลิตจาก Polyethylene terephthalate (พอลิเอทิลีน เทเรฟทาเลต) ลักษณะโปร่งใสคล้ายขวดแก้ว ไม่แตกง่าย จะมีราคาสูงกว่าแก้วชนิด PP และแก้วน้ำชนิด GPPS ราคาเฉลี่ยที่ 2 – 3.2 บาท/ใบ
2. แก้วน้ำพลาสติกPP ผลิตจาก พลาสติก PP หรือ Polypropylene (พอลิโพรไพลีน) มีลักษณะนิ่ม บาง ใส และเหนียว ไม่แตกง่าย
3. แก้วพลาสติก PP แข็ง หรือ แก้วพลาสติก Rigid PP ผลิตจากพลาสติก PP โดยลักษณะแก้วน้ำจะเป็นเนื้อสีขุ่น ขาว หนา และแข็งแรง ทนต่อการขีดข่วน และความร้อน สามารถเก็บความเย็นของเครื่องดื่มได้ สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 บาท/ ใบ
4. แก้วพลาสติก GPPS หรือ แก้วพลาสติก PS ผลิตจากพลาสติก General Purpose Polystyrene ลักษณะแก้วน้ำจะมีความใส แต่จะไม่ทนต่อการกระแทก แตกหักง่าย สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และย่อยสลายได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3.3 บาท / ใบ
5. แก้วน้ำกระดาษ หรือ แก้วน้ำ Double Wall เป็นแก้วน้ำใส่เครื่องดื่มร้อนหาง่ายตามจุดเครื่องชงกาแฟหรือร้านสะดวกซื้อ ผลิตจากเยื่อกระดาษ เนื้อไม้ธรรมชาติ โดยเคลือบพลาสติกประเภท PE : Polyethylene (พอลิเอทิลีน) ป้องกันไม่ให้น้ำซึมออกง่าย สามารถย่อยสลายได้ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ราคาเฉลี่ยที่ 0.8-1.8 บาท/ใบ
6. แก้วน้ำ BIO แก้วพลาสติกพรีเมี่ยม หรือที่เรียกว่า แก้วน้ำรักษ์โลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตจากพลาสติก PLA หรือ Polylactic Acid เป็นพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ โดยใช้วัตถุดิบชีวภาพ เช่น ข้าวโพด หรือธัญพืช สามารถย่อยสลายได้ ใน 5-10 ปี และนำไปรีไซเคิลได้ง่ายกว่าพลาสติกชนิดอื่น ๆ ลักษณะแก้วน้ำจะมีความแข็ง หนา สีใส คล้ายแก้วพลาสติก PET ด้วยความที่เป็นแก้วน้ำ ECO หรือแก้วน้ำจากวัสดุธรรมชาติ ทำให้ราคาค่อนข้างสูง กว่าแก้วน้ำชนิดอื่น ๆ ราคาเฉลี่ย 2 – 4 บาท ต่อ/ใบ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในขณะนี้